ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

รู้ยัง??? ที่ดินตรงไหน คือ EEC บ้าง


        เราคงจะเคยได้ยินคำว่า EEC หรือ ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ ภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor) จากข่าวหรือบทความกันอย่างหนาหู ว่า รัฐบาลจะมีการส่งเสริมอุสาหกรรมในเขต EEC” รวมไปถึง เขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก จะปลดล็อกต่างชาติในการถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดิน” เป็นต้น 
.

    แต่ท่านทราบหรือไม่ว่า EEC คือที่ดินบริเวณส่วนใดบ้าง ซึ่งหากพิจารณาตามประกาศพรบ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2561 จะมีเนื้อความว่า พื้นที่ใน EEC นี้ครอบคลุมพื้นที่ จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง และเขตจังหวัด อื่นๆ ที่ติดต่อหรือเกี่ยวข้อง
.
ซึ่งคำว่าครอบคลุมพื้นที่ แต่ไม่ใช่ทุกพื้นที่ 100%
.

ภาพขอบเขตพื้นที่ 3 จังหวัดสำคัญของ EEC

ที่มา: ทีมงาน Tooktee
ตรงไหนคือเขตพัฒนาพิเศษ ???

        พิจารณาจากการรายชื่อเขตส่งเสริมที่ประกาศแล้ว ของเว็บไซต์ https://www.eeco.or.th/ ซึ่งปัจจุบันจะพบว่ามีเขตที่ได้รับการส่งเสริมทั้งหมดจำนวน 24 เขต (อัพเดดข้อมูลวันที่ 10 เม.ย. 2562)
.
ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2561 และ 7 พ.ค. 2561 โดยส่วนใหญ่แล้วจะพบว่าพื้นที่อยู่ในบริเวณนิคมอุตสาหกรรม ภาคตะวันออกทั้ง 3 จังหวัด ดังนี้


ภาพพื้นที่ส่งเสริมการลงทุนใน EEC


ภาพพื้นที่ส่งเสริมการลงทุนในจังหวัดฉะเชิงเทรา


จะสังเกตได้ว่าจังหวัดฉะเชิงเทราจะมีเพียงพื้นที่เดียวที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน คือ นิคมอุตสาหกรรมที เอฟ ดี 2


ภาพพื้นที่ส่งเสริมการลงทุนในจังหวัดชลบุรี



ภาพพื้นที่ส่งเสริมการลงทุนในจังหวัดระยอง


ที่มาทีมงาน Tooktee

 

        ปัจจุบันได้มีการกำหนดพื้นที่ดินที่เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ รวมประมาณเกือบ 9.9 หมื่นไร่ อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัด ภาคตะวันออก
.
โดยจังหวัดที่ได้รับอนุมัติอันดับหนึ่งเป็นพื้นที่ภายในจังหวัดระยอง (57%รองลงมาเป็นจังหวัดชลบุรี (43%) และจังหวัดฉะเชิงเทรา (1%) ตามลำดับ

ตารางสรุปข้อมูลได้รับอนุญาตเป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ (EEC) รายจังหวัด

จังหวัด
พื้นที่ (ไร่)
สัดส่วน
ะยอง
             55,851
57%
ชลบุรี
             42,022
43%
ฉะเชิงเทรา
                 841
1%
รวม
          98,715
100%


                           ที่มา: สรุปข้อมูลจาก www.eeco.or.th

.
ทั้งนี้ หากมีที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ตั้งอยู่ในพื้นที่ของเขตรับการส่งเสริม จะได้สิทธิพิเศษต่างๆ สรุปได้ดังนี้
.
     1.    ผู้ประกอบกิจการในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งเป็นนิติบุคคลและเป็นคนต่างด้าวตามประมวลกฎหมายที่ดิน มีสิทธิถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินภายในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อประกอบกิจการที่ได้รับอนุญาตได้ โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตตามประมวลกฎหมายที่ดิน” หรือสรุปโดยนัยก็คือ ชาวต่างชาติจะสามารถถือครองที่ดินได้(ระยะเวลาสูงสุดสัญญา 50+49 ปี หรือรวม 99 ปี) 
.
ซึ่งหากไม่ใช่พื้นที่ในเขตส่งเสริมฯ ปัจจุบันต่างด้าวหรือชาวต่างชาตินี้ การได้มาของที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยได้จะต้องไม่เกิน 1 ไร่ โดยต้องได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และมีเงื่อนไขคือ จะต้องนำเงินเข้ามาลงทุนในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท
.
     2.        ผู้ประกอบกิจการในเขตส่งเสริมฯ ซึ่งเป็นนิติบุคคลและเป็นคนต่างด้าว ได้รับการยกเว้นจากการจำกัดสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุดซึ่งตามกฎหมายอาคารชุด ซึ่งตามปกติคนต่างด้าวหรือชาวต่างชาตินี้ มีสิทธิถือกรรมสิทธิ์ในห้องชุดได้ไม่เกิน 49%ของเนื้อที่ห้องชุดในอาคารชุดนั้นๆ 
.
โดยสิทธิพิเศษที่เพิ่มให้ในเขต EEC นี้จะทำให้ต่างชาติสามารถถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดนั้นๆ ได้เกินครึ่ง นั่นเอง
.
ซึ่งท่านสามารถเช็คพื้นที่ที่ประกาศ EEC ได้จาก  https://www.eeco.or.th/content/รายชื่อเขตส่งเสริมที่ประกาศแล้ว นี้

           อย่างไรก็ตามหากท่านไม่มีที่ดิน หรืออสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ ECC ก็อย่าได้เสียใจไป เนื่องจากความเจริญก็สามารถกระจายอยู่ในพื้นที่รอบๆ ได้ (แต่ไม่ได้รับสิทธิเช่นเดียวกับ EEC) โดยทางโครงการฯ ได้มีการส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ อันได้แก่ การพัฒนารถไฟความเร็วสูง การพัฒนาทางหลวง รวมไปถึงการพัฒนาสนามบินในพื้นที่ให้เป็นสนามบินเชิงพาณิชย์ได้ ตามแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
.
    รวมไปถึงเกิดการจ้างงานในพื้นที่ โดยทางโครงการ EEC คาดการณ์ว่าจะทำให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่ถึง 100,000 คนต่อปี ซึ่งในแต่ละพื้นที่จะมีการส่งเสริมอุตสาหกรรมที่แตกต่างกันไป ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ เป็นต้น
.
การส่งเสริมประเภทอุตสาหกรรมใดๆ จะสอดคล้องกับการขออนุญาตของพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษนั้นๆ โดยสามารถดูรายละเอียดสรุปได้จากตารางด้านล่าง



ตารางสรุปประเภทอุตสาหกรรมที่ได้ส่งเสริม แยกพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ


ที่มา: สรุปข้อมูลจาก www.eeco.or.th

           ทั้งนี้การเกิดโครงการ EEC หรือระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก จากที่ได้กล่าวมา จะส่งผลประโยชน์หรือผลกระทบขึ้นจริงต่อคนในพื้นที่มากน้อยเพียงไร ก็ต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิด แต่อย่างไรก็ตามเม็ดเงินในการลงทุนนี้ จะส่งผลต่อการเติบโตของระบบเศรษฐกิจภาคตะวันออกอย่างแน่นอน

ไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหว แค่กดเป็นเพื่อนกับ LINE @tooktee หรือ กดถูกใจเพจเฟสบุ๊ค tooktee

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

FAR และ OSR ข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่อาคารตามประเภทสีผังเมือง

FAR และ OSR คืออะไร? วิธีตรวจสอบข้อกำหนด FAR และ OSR ของที่ดินเรา  FAR และ OSR คืออะไร? FAR และ OSR เป็นข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่อาคารตามประเภทสีผังเมืองในแต่ละพื้นที่ ส่งผลต่อศักยภาพการพัฒนา และการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างมาก เพราะจะส่งผลต่อขนาดพื้นที่อาคารที่สามารถสร้างได้ และทำให้โอกาสสร้างรายได้มากขึ้นหรือน้อยลงตามข้อกำหนดนี้ ซึ่งหากเราไปซื้อที่ดิน หรือ ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่สีผังเมืองที่มีข้อจำกัดทาง FAR และ OSR แล้วล่ะก็ อาจส่งผลต่อศักยภาพในการพัฒนาให้ไม่เป็นไปตามที่คุณวาดฝันไว้ก็ได้ หรือ หากซื้อมาแล้วต้องการขายต่อก็อาจจะขายได้ยาก FAR (Floor to Area Ratio)  คือ อัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดิน  สูตรการคำนวณ          พื้นที่อาคารสูงสุดที่สร้างได้  = ค่า FAR X ขนาดพื้นที่ดินเป็นตารางเมตร ตัวอย่าง  ที่ดินขนาด 1 ไร่ (1,600 ตารางเมตร) อยู่ในพื้นที่ตามข้อกำหนด FAR = 6 เท่ากับว่า พื้นที่อาคารสูงสุดที่สามารถสร้างได้ คือ 6 x 3,200 = 9,600 ตารางเมตร OSR (Open Space Ratio)  ...

วิธีตรวจสอบสีผังเมืองง่าย ๆ เช็ค FAR OSR

  ทำไมต้องตรวจสอบสีผังเมือง? รู้ไหมว่าสีผังเมืองส่งผลต่อขนาดอาคาร และมูลค่าที่ดินด้วย วิธีตรวจสอบสีผังเมืองด้วยตัวเองง่าย ๆ ทำไมต้องรู้สีผังเมืองของตัวเอง ? สีผังเมือง หรือ ผังการใช้ประโยชน์ที่ดิน เป็นผังที่แบ่งการใช้ประโยชน์พื้นที่ออกเป็นประเภทต่าง ๆ หากเรามีที่ดิน หรือ บ้านอยู่ในทำเลใด ควรจะตรวจสอบสีผังเมืองเพื่อให้ทราบถึงศักยภาพการพัฒนา ซึ่งส่งผลต่อราคาที่ดินของคุณ โดยสีผังเมืองจะบอกว่าอาคารประเภทใดบ้างที่พัฒนาได้ มี  อัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดิน  (Floor Area Ratio: FAR)  และ อัตราส่วนของพื้นที่ว่างต่อพื้นที่อาคารรวม (Open Space Ratio:  OSR)  เท่าไหร่? หากที่ดินของเราอยู่ในพื้นที่ที่มีศักยภาพการพัฒนาสูง มีค่า FAR มากสามารถสร้างอาคารได้ขนาดใหญ่ขึ้น ก็ส่งผลให้ที่ดินของเรามีมูลค่ามากขึ้นนั่นเอง ในแต่ละจังหวัดหรือขอบเขตพื้นที่ปกครองจะมีข้อกำหนดสีผังเมืองต่างกัน หากเราและเพื่อนมีที่ดินขนาด 2 ไร่เท่ากัน อยู่ ห่างกันเพียง 500 เมตร ก็อาจมีศักยภาพการพัฒนาต่างกัน ทำให้ราคาที่ดินต่างกันมาก เช่น เมื่อตรวจสอบสีผังเมืองแล้วพบว่าที่ดินของเพื่อนอยู่ในพื้นท...

ยูนิโอ เอช ติวานนท์ (18/3/2562)

คอนเซ็ปต์:  คอนโด High Rise ราคาเบาๆ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง (สถานีแยกติวานนท์) โดย บริษัท เฮลิกซ์ จำกัด (ภายในเครือบมจ. อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์) ยูนิโอ เอช ติวานนท์  ตั้งอยู่ติดถนนกรุงเทพ-นนทบุรี (ระหว่างซอยกรุงเทพ-นนทบุรี 12-14) ย่านติวานนท์ ฝั่งขาเข้าเมือง สามารถเดินทางเชื่อมต่อ  รถไฟฟ้าสายม่วง สถานีแยกติวานนท์  ประมาณ 100 เมตร และใกล้ทางพิเศษศรีรัช (วงแหวนรอบนอก)  ทำเลที่ตั้ง    ผังโครงการ    แบบห้อง    จุดเด่น ทำเลที่ตั้ง ตั้งอยู่ติดถนนกรุงเทพ-นนทบุรี  การเดินทางสามารถเชื่อมต่อเส้นถนนสำคัญๆ ได้หลายเส้น อาทิ ถนนรัชดาภิเษก ถนนวงศ์สว่าง ถนนนครอินทร์ รวมไปถึงถนนติวานนท์ได้ จุดเชื่อมต่อการเดินทางที่สำคัญ ที่ตั้งโครงการสามารถเดินทางโดยเท้าใช้ระยะเวลาเพียง 2-3 นาที (ประมาณ 100 เมตร) เพื่อเชื่อมต่อ  รถไฟฟ้าสายสีม่วง (MRT) สถานีแยกติวานนท์  ได้  .  ซึ่งจาก  สถานีแยกติวานนท์  สามารถเชื่อมต่อกับ เส้นรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคลหรือรถไฟฟ้าใต้ดิน  เพียง 3 สถานี  ผ่านส...