ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ยูนิโอ เอช ติวานนท์ (18/3/2562)




คอนเซ็ปต์: คอนโด High Rise ราคาเบาๆ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง (สถานีแยกติวานนท์)
โดย บริษัท เฮลิกซ์ จำกัด
(ภายในเครือบมจ. อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์)
ยูนิโอ เอช ติวานนท์ ตั้งอยู่ติดถนนกรุงเทพ-นนทบุรี (ระหว่างซอยกรุงเทพ-นนทบุรี 12-14) ย่านติวานนท์ ฝั่งขาเข้าเมือง สามารถเดินทางเชื่อมต่อ รถไฟฟ้าสายม่วง สถานีแยกติวานนท์ ประมาณ 100 เมตร และใกล้ทางพิเศษศรีรัช (วงแหวนรอบนอก)

ทำเลที่ตั้ง

ตั้งอยู่ติดถนนกรุงเทพ-นนทบุรี การเดินทางสามารถเชื่อมต่อเส้นถนนสำคัญๆ ได้หลายเส้น อาทิ ถนนรัชดาภิเษก ถนนวงศ์สว่าง ถนนนครอินทร์ รวมไปถึงถนนติวานนท์ได้

จุดเชื่อมต่อการเดินทางที่สำคัญ



ที่ตั้งโครงการสามารถเดินทางโดยเท้าใช้ระยะเวลาเพียง 2-3 นาที (ประมาณ 100 เมตร) เพื่อเชื่อมต่อ รถไฟฟ้าสายสีม่วง (MRT) สถานีแยกติวานนท์ ได้ 

ซึ่งจาก สถานีแยกติวานนท์ สามารถเชื่อมต่อกับ เส้นรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคลหรือรถไฟฟ้าใต้ดิน เพียง 3 สถานี ผ่านสถานีเตาปูน ซึ่งเป็นสถานีเปลี่ยนขบวน (Interchange Station) ที่ขยายเส้นทางเดินขบวนมาจากสถานีบางซื่อ
ในส่วนโครงข่ายรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและอยู่ในแผนก็เป็นที่น่าจับตามอง ซึ่งโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างคือรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน และ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (ช่วงเตาปูน-ท่าพระ) 

รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน พัฒนาเพิ่มเติมมาจากเส้น BTS สถานีบางซื่อ โดยจะมีจุดเชื่อมต่อกับเส้นรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่สถานีบางซ่อน คาดการณ์ว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2565 โดยจากสถานีแยกติวานนท์เพียง 2 สถานี 

รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (ช่วงเตาปูน-ท่าพระ) เป็นเส้นส่วนต่อขยายเพิ่มเติม ที่พัฒนาข้ามไปยังพื้นที่ฝั่งธนบุรี คาดการณ์ว่าจะเปิดให้ใช้บริการปี 2563 นี้
ถึงแม้ว่าสถานีแยกติวานนท์จะไม่ใช่สถานีเปลี่ยนขบวน (Interchange Station) แต่หากพิจารณาการเดินทางเพียง 2-3 สถานี เพื่อเชื่อมต่อสู่รถไฟฟ้าเส้นอื่นๆ ได้ ก็นับได้ว่าเป็น ทำเลที่มีทางเลือกในการเดินทางที่หลากหลายทีเดียว 

สำหรับผู้ที่ขับรถ โครงการอยู่ใกล้ แนวทางด่วนศรีรัช (วงแหวนรอบนอก) ซึ่งจะมีเส้นทางลัดจากซอยกรุงเทพ-นนทบุรี 12 ขับไปเรื่อยๆ ถึงซอยดวงมณี ก็จะมีเส้นทางเพื่อไปเข้าทางด่วนด่านงามวงศ์วาน รวมถึงสามารถลัดเลาะไปออกถนนงามวงศ์วานได้
ซอยกรุงเทพ-นนทบุรี 12 เส้นทางลัดไปทางด่วนศรีรัช
ระยะห่างจากจุดเชื่อมต่อสำคัญ

สถานที่สำคัญโดยรอบ

ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบโครงการ (ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร) จะพบแหล่งช็อปปิ้งใกล้กับโครงการมากมาย ได้แก่ บิ๊กซี ติวานนท์, บิ๊กซี วงศ์สว่าง, โลตัส รัตนาธิเบศร์ และเอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ งามวงศ์วาน-แคราย 

ในส่วนของเดอะมอลล์งามวงศ์วาน ที่เป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในพื้นที่ อาจจะเกินรัศมี 3 กิโลเมตร จากรอบโครงการ แต่การเดินทางไปสามารถใช้รถสองแถวขึ้นจากซอยกรุงเทพ-นนทบุรี 12 (ศิริชัย) ไปถึงห้างได้ ซึ่งนับว่าสะดวกสบายมาก 

นอกจากแหล่งช็อปปิ้งแล้ว บริเวณรอบโครงการยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกหลากหลายประเภท คือ โรงพยาบาล (โรงพยาบาลเกษมราษฎร์อยู่ใกล้ที่สุด) รวมไปถึงสถานศึกษาทั้งระดับอุดมศึกษา (ม.พระจอมเกล้าฯพระนครเหนือ) และระดับมัธยมศึกษาชื่อดังอย่าง โรงเรียนโยธินบูรณะ รวมไปถึงสถานที่สำคัญอื่นๆ เช่น ศูนย์ราชการนนทบุรี และกระทรวงสาธารณะสุข ซึ่งนับว่าพื้นที่นี้เป็นทั้งพื้นที่แหล่งงาน และพักอาศัย ตอบโจทย์การอยู่อาศัยและกลุ่มคนวัยทำงานย่านตัวเมืองนนทบุรีได้อย่างดี
ระยะเดินไปสถานที่สำคัญรอบโครงการ
ลักษณะแปลงที่ดินโครงการ มีลักษณะคล้ายรูปทรง 5 เหลี่ยม บริเวณทางเข้าโครงการนอกจากเส้นทางสัญจรเข้า-ออก ที่เป็นทางเดินรถ ยังมีความกว้างเพียงพอที่สามารถวาง แนวทางเดินเท้าพร้อมสวนหย่อม
เส้นทางเข้าออกโครงการ แบ่งแยกประเภทการใช้งานด้วยสวนหย่อมอย่างชัดเจน
ลักษณะการวางตำแหน่งของห้องพักอาศัย ทำได้ดีจำนวนห้องสูงสุด มีเพียง 14 หน่วยต่อชั้น ซึ่งถือว่าน้อยสำหรับคอนโดราคาเฉลี่ยตารางเมตรละ 7x,xxx บาท (ราคา ณ เดือนมีนาคม 2562) 

การจัดวางผังอาคารออกแบบได้ดี พิจารณาจากการวางตำแหน่งลิฟต์ตั้งอยู่บริเวณตรงกลางของอาคาร (Core) เป็นตำแหน่งที่ใกล้กับทุกๆห้อง และทำให้ ตำแหน่งของลิฟต์ไม่ติดกับห้องใดๆ
เมื่อพิจารณาจากผังโครงการ ตำแหน่งโถงลิฟต์จะอยู่บริเวณตรงกลาง (Core) ของอาคาร

สิ่งอำนวยความสะดวก

ภายในโครงการคอนโดแบบ High rise สูง 37 ชั้น จัด สิ่งอำนวยความสะดวกหลักของโครงการอยู่ชั้นที่ชั้น 8-9ได้แก่ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องซาวน่าแยกชายหญิง รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่อยู่ชั้นดาดฟ้า ได้แก่ สวนหย่อม จุดชมวิว รวมไปถึง Jogging Track ของโครงการ 

ด้านที่จอดรถสามารถจอดรถได้ที่ชั้น 1 บริเวณโดยรอบโครงการ และชั้น 2-7 ซึ่งที่จอดรถ 160 คัน คิดเป็นประมาณ 42% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว และลิฟต์ขนของ 1 ตัว รวม จำนวนลิฟต์ทั้งหมด 4 ตัว ซึ่งหากคำนวณจำนวนห้องต่อชั้นสูงสุดที่ 14 ห้องต่อชั้น จำนวนลิฟต์โดยสารเฉลี่ยต่อชั้นจะตกอยู่ที่ประมาณ 5 ห้อง ต่อลิฟต์ 1 ตัว 

จากหน่วยขายที่ 378 หน่วย นับได้ว่าสิ่งอำนวยความสะดวกและจำนวนที่จอดรถ ที่จัดเตรียมไว้ให้นั้นเพียงพอต่อการอยู่จริง

รูปแบบห้อง


รูปแบบห้องของโครงการมี 14 แบบห้อง ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ตามฟังก์ชั่นการใช้งาน คือ สตูดิโอ, 1 ห้องนอน และ 1 ห้องนอน พลัส โดยมีรายละเอียดดังนี้
  • สตูดิโอ ขนาดห้อง 24.3-25.7 ตารางเมตร แบบ A
  • 1 ห้องนอน ขนาดห้อง 28.3-33.5 ตารางเมตร แบบ B, C
  • 1 ห้องนอน พลัส ขนาดห้อง 42.8-43.8 ตารางเมตร แบบ D

สตูดิโอ ขนาด 24.3 ตร.ม. (A2-M)


แบบห้องขายดี ของทางโครงการ การออกแบบฟังก์ชั่นของห้องแบบสตูดิโอมีเพียงรูปแบบเดียว ต่างกันตรงตำแหน่ง และการสลับด้านฝั่งซ้ายขวา (Mirror Room) 

ฟังก์ชั่นห้องแบบสตูดิโอเมื่อเปิดประตูมาจะเป็นพื้นที่ชั้นวางรองเท้าและพื้นที่วางเครื่องซักผ้า (ห้องแบบ A1 และ A1M ตำแหน่งวางเครื่องซักผ้าจะเปลี่ยนเป็นอยู่ที่ระเบียงแทน) ถัดมาจะเป็นครัวแบบเปิด (Pantry) และมุมรับประทานอาหาร พื้นที่ต่อเนื่องกัน จะเป็นพื้นที่นั่งเล่น และระเบียง 

ส่วนที่เป็นพื้นที่วางเตียงนอนจะอยู่ลำดับในสุดของห้อง พร้อมห้องน้ำที่เข้าได้จากฝั่งพื้นที่วางเตียงนอนได้ทางเดียว โดยโครงการยูนิโอ เอช ติวานนท์นี้ ไม่มีการกั้นห้องแยกพื้นที่ห้องนั่งเล่นและพื้นที่ แต่หากการใช้อยู่จริงเมื่อกั้นห้องแล้วสามารถสร้างความเป็นส่วนตัวในการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างดี 

การออกแบบฟังก์ชั่นห้องสามารถเทควิวภายนอกอาคารได้ทั้งพื้นที่ห้องนั่งเล่น และภายในพื้นที่บริเวณเตียงนอน ซึ่งห้องรูปแบบนี้เหมาะกับการอยู่ 1 -2 คน เจาะกลุ่มที่ต้องการเนื้อที่ใช้สอยมากกว่าการกั้นพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน แต่อย่างไรก็ตามในการใช้งานจริงก็สามารถปรับเปลี่ยนการใช้สอยกั้นห้องภายหลังได้อย่างไม่ยากเย็น เนื่องจากทางโครงการได้ออกแบบห้องรองรับไว้แล้ว 

1 ห้องนอน ขนาด 32.3 ตร.ม. (B2-M)


แบบห้องขายดี แบบห้อง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ Type B2-M ของทางโครงการ ออกแบบมารองรับกับผู้ที่ชอบการออกแบบพื้นที่ให้เป็นสัดเป็นส่วนมากกว่าห้องแบบสตูดิโอ เนื่องจากมีการกั้นห้องแยกพื้นที่ระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอน 

ฟังก์ชั่นห้องรูปแบบนี้เมื่อเปิดประตูมาในห้องจะเป็นมุมครัวเปิด (Pantry) และห้องน้ำก่อนลำดับแรก ถัดมาจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นและทางเข้าไปสู่ห้องนอน ซึ่งถัดจากพื้นที่นั่งเล่นจะเป็นระเบียงชมทิวทัศน์ภายนอกอาคาร 

ในส่วนพื้นที่ห้องนอนจะมีห้องน้ำ ซึ่งตัวห้องน้ำของห้องรูปแบบนี้จะมีห้องเดียว แต่ มีประตู 2 ฝั่ง ที่สามารถเข้าจากห้องนอน รวมไปถึงประตูอีกด้านที่บริเวณส่วนด้านหน้าห้อง (บริเวณครัว) ซึ่งรูปแบบ ประตูบานเลื่อน ทำให้การใช้งานพื้นที่ค่อนข้างยืดหยุ่น เช่น หากมีแขกมาเยี่ยม สามารถเปิดประตูบานเลื่อนให้แขกเข้าห้องน้ำโดยที่ไม่ผ่านพื้นที่ห้องนอนเลยได้ ในส่วนการใช้งานปกติก็สามารถล็อคประตูบานเลื่อนให้เข้าทางห้องนอนเพียงอย่างเดียวได้ เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น
ประตูห้องน้ำแบบบานเลื่อนจากฝั่งหน้าห้อง
ห้องรูปแบบ 1 ห้องนอนของโครงการ จะมีการออกแบบโต๊ะทานข้าวแบบซ่อนใต้เคาน์เตอร์ครัว ช่วยทำให้ประหยัดพื้นที่ใช้สอยได้อย่างดี
โต๊ะรับประทานอาหารที่ซ่อนใต้เคาน์เตอร์ครัวได้

1 ห้องนอน ขนาด 32.5 ตร.ม. (C-M)


แบบห้อง C-M ฟังก์ชั่นการใช้งานจะคล้ายกับห้องแบบ B2-M ที่เป็นแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ แต่เนื่องจากขนาดพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้น อีกทั้ง การจัดวางตัวห้องแบบหน้ากว้าง ทำให้ได้ความกว้างระเบียงเพิ่มขึ้น สามรถเทควิวจากห้องนั่งเล่นอีกทั้งภายในห้องดูไม่อึดอัดจนเกินไป
ประตูห้องน้ำแบบบานเลื่อนจากฝั่งหน้าห้อง
ฟังก์ชั่นห้องรูปแบบนี้เมื่อเปิดประตูมาในห้องจะเป็นจุดวางชั้นวางรองเท้า ซึ่งถัดมาจะเป็นครัวเปิด (Pantry) ที่เชื่อมต่อบริเวณพื้นที่นั่งเล่น ส่วนที่อยู่ลึกสุดจะเป็นห้องนอน 

ในส่วนพื้นที่ห้องนอนจะมีห้องน้ำ ซึ่งเป็นรูปแบบ การจัดวางตัวห้องแบบหน้ากว้าง เช่นเดียวกับแบบ B2M ที่สามารถเข้าจากห้องนอน และประตูห้องน้ำที่เข้าจากห้องนั่งเล่นได้ ทำให้การใช้งานพื้นที่ค่อนข้างยืดหยุ่น เช่น หากมีแขกมาเยี่ยม สามารถเปิดประตูฝั่งห้องนั่งเล่นให้แขกเข้าห้องน้ำได้ โดยที่ไม่ผ่านพื้นที่ห้องนอน 

การใช้งานปกติก็สามารถล็อคประตูบานเลื่อนให้เข้าทางห้องนอนเพียงอย่างเดียวได้ เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น โดยห้องรูปแบบนี้เหมาะแก่ผู้พักอาศัยแบบ 1-2 คน ที่ต้องการมีพื้นที่ที่เป็นสัดเป็นส่วนมากยิ่งขึ้น

1 ห้องนอน พลัส ขนาด 43.8 ตร.ม. (D2-M)


ขนาดห้อง 43.8 ตารางเมตร แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และได้ เพิ่มพื้นที่อเนกประสงค์ (พสัส) ซึ่งสามารถกั้นห้องทำเป็นห้องทำงาน หรือห้องนอนเล็กได้ (ทางโครงการไม่ได้กั้นห้องไว้ให้) โดยมีขนาดหน้ากว้างประมาณ 3.8 เมตร 

ห้องรูปแบบ D เพิ่มพื้นที่อเนกประสงค์ขึ้นมา
ทั้งโครงการจะมีห้อง Type D นี้รวม 8 หน่วย ประจำอยู่ชั้น 8-9 (ชั้นส่วนกลาง) และชั้นที่ 36 

ฟังก์ชั่นภายในห้อง เมื่อเข้าประตูจะเป็นจุดวางชั้นวางรองเท้า ถัดมาจะเป็นครัวเปิด (Pantry) พื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่น ตามลำดับ โดยส่วนที่เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ (พสัส) จะเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่น ส่วนห้องนอนจะอยู่ลำดับในสุดของห้องรูปแบบนี้ 

ห้องน้ำจะเป็นประตูเข้าได้ 2 ฝั่ง เช่นเดียวกับรูปแบบ 1 ห้องนอน ที่สามารถเข้าจากห้องนอน และประตูห้องน้ำที่เข้าจากพื้นที่นั่งเล่นได้

จุดเด่นของโครงการ

1. การออกแบบผังโครงการ


หลายท่านอาจได้คุ้นเคยกับแบรนด์ยูนิโอ เช่น ยูนิโอ สุขุมวิท 72 ยูนิโอ รามคำแหง-เสรีไทย แต่อย่างไรก็ตามชื่อโครงการ ยูนิโอ เอช อาจจะฟังดูแตกต่างจากแบรนด์ยูนิโอที่อื่น และสงสัยที่มาของ “เอช” 

“เอช” ที่ซ่อนอยู่ภายในโครงการมาจากโถงทางเดินภายในอาคารที่มีลักษณะรูปตัวอักษร H
โถงทางเดินภายในอาคารรูปตัว H
ซึ่งจากที่ได้กล่าวไปช่วงต้นแล้วว่า ผังรูปแบบนี้มีการออกแบบทำให้ ตำแหน่งของลิฟต์ไม่ติดกับห้องใดๆ นอกจากนั้นยังมีจุดเด่นที่สำคัญในการอยู่อาศัยคือ ห้องบางส่วนจะได้ รูปแบบห้องที่เป็น Single Corridor หรือโถงทางเดินฝั่งเดียว หรืออธิบายได้ว่า เมื่ออยู่อาศัยจริงเปิดประตูมา ก็จะไม่พบกับประตูห้องตรงข้ามนั่นเอง ช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัยได้อย่างดี ซึ่งห้องที่มีลักษณะคล้าย Single Corridor นี้ จะเป็นห้อง Type B หรือห้องแบบ 1 ห้องนอนของโครงการ

2. จำนวนหน่วยพักอาศัย


จากโครงการแบบ High Rise ที่มีความสูงอาคารถึง 37 ชั้น แต่มีจำนวนหน่วยขายรวมที่ 378 หน่วยนั้น หรือมีจำนวนห้องพักต่อชั้นสูงสุดที่ 14 ห้องนั้น นับได้ว่าน้อยสำหรับคอนโดราคาเฉลี่ยตารางเมตรละ 7x,xxx บาท (ราคา ณ เดือนมีนาคม 2562) ทำให้การอยู่อาศัยจริงไม่วุ่นวาย 

รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการ นอกจากคุณภาพที่โครงการได้เตรียมไว้ให้ อาทิ สระว่ายน้ำขนาด 6.5 x 18.8 เมตร สระน้ำอุ่น ห้องซาวน่า Jogging Track ชั้นดาดฟ้า ที่กระจายอยู่ในแต่ละชั้น ได้แก่ ชั้น 1, 8, 9, 36 และบริเวณดาดฟ้านั้น ทำให้กระจายการใช้งานของผู้พักอาศัยในอาคาร เรียกได้ว่าสิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการ คุ้มทั้งคุณภาพและปริมาณ เมื่อเทียบกับจำนวนหน่วยขายทั้งหมดของโครงการ
ตัวอย่างสิ่งอำนวยความสะดวกในแต่ละชั้นของโครงการ

3. ทำเลที่ตั้งในอนาคต

ทำเลที่ตั้งโครงการตั้งอยู่ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงสถานีต้นๆ รายล้อมด้วยแหล่งงาน และสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับการพักอาศัย ซึ่งหากใครต้องการคอนโดราคาที่เหมาะสม รวมไปถึงการซื้อทำเลในอนาคต จากแผนการพัฒนา รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (ช่วงเตาปูน-ท่าพระ) และ รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเปิดให้ใช้บริการในปี 2563 และ 2565 ตามลำดับ ซึ่งเมื่อโครงการรถไฟฟ้าก่อสร้างแล้วเสร็จจะทำให้การเดินทางเชื่อมต่อสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น 

จากจุดเด่นที่ได้กล่าวมา เมื่อพิจารณาราคาขายของโครงการที่ เริ่มต้น 1.79 ล้านบาท กับรูปแบบห้อง Fully Fitted ที่แถมครัว แอร์ และสุขภัณฑ์มาให้ 

พร้อมเข้าอยู่ (เริ่มเข้าอยู่ช่วงเดือนเมษายน 2562) ซึ่งหากใครสนใจก็สามารถติดต่อโครงการได้ทุกวัน (สำนักงานขายอยู่ชั้น 1 ของโครงการ) เปิดบริการทุกวัน เวลา 9.00-18.00 น. หรือสามารถสอบถามข้อมูลได้ทาง Line: Helix หรือ เบอร์โทร 02-032-222224 ชั่วโมง ได้ตลอด 24 ชั่วโมง 
ที่มา: https://www.tooktee.com/content/detail/1597 ไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหว ติดตาม Tooktee (ทุกที่) ผ่านโซเชียลมีเดีย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

FAR และ OSR ข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่อาคารตามประเภทสีผังเมือง

FAR และ OSR คืออะไร? วิธีตรวจสอบข้อกำหนด FAR และ OSR ของที่ดินเรา  FAR และ OSR คืออะไร? FAR และ OSR เป็นข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่อาคารตามประเภทสีผังเมืองในแต่ละพื้นที่ ส่งผลต่อศักยภาพการพัฒนา และการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างมาก เพราะจะส่งผลต่อขนาดพื้นที่อาคารที่สามารถสร้างได้ และทำให้โอกาสสร้างรายได้มากขึ้นหรือน้อยลงตามข้อกำหนดนี้ ซึ่งหากเราไปซื้อที่ดิน หรือ ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่สีผังเมืองที่มีข้อจำกัดทาง FAR และ OSR แล้วล่ะก็ อาจส่งผลต่อศักยภาพในการพัฒนาให้ไม่เป็นไปตามที่คุณวาดฝันไว้ก็ได้ หรือ หากซื้อมาแล้วต้องการขายต่อก็อาจจะขายได้ยาก FAR (Floor to Area Ratio)  คือ อัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดิน  สูตรการคำนวณ          พื้นที่อาคารสูงสุดที่สร้างได้  = ค่า FAR X ขนาดพื้นที่ดินเป็นตารางเมตร ตัวอย่าง  ที่ดินขนาด 1 ไร่ (1,600 ตารางเมตร) อยู่ในพื้นที่ตามข้อกำหนด FAR = 6 เท่ากับว่า พื้นที่อาคารสูงสุดที่สามารถสร้างได้ คือ 6 x 3,200 = 9,600 ตารางเมตร OSR (Open Space Ratio)  คือ อัตราส่วนของพื้นที่ว่างต่อพื้นที่อาคารรวม สูตรการคำนวณ พ

20 คำศัพท์ภาษาอังกฤษยอดฮิต ที่ใช้บ่อยในวงการอสังหาริมทรัพย์

TOOKTEE รวบรวมมาให้แล้ว 20 คำศัพท์ภาษาอังกฤษยอดฮิต ที่ใช้บ่อยในวงการอสังหาริมทรัพย์  นายหน้าอสังหา  ต้องไม่พลาด มาดูกันว่ามีคำว่าอะไรบ้าง ในวงการอสังหาริมทรัพย์ นายหน้าอสังหาฯ ต้องเรียนรู้ภาษาอังกฤษจะช่วยให้สามารถเข้าใจและสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นเรามาดูกันว่า 20 คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่นิยมใช้ในวงการนี้ มีอะไรบ้าง Property - หมายถึง อสังหาริมทรัพย์ หรือที่ดินและสิ่งก่อสร้าง Investment - หมายถึงการลงทุน เช่น การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ Mortgage - หมายถึงสัญญากู้ยืมเงินซื้อบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์ Lease - หมายถึงสัญญาเช่าที่มีการใช้ที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ Capital - หมายถึงเงินทุนหรือสิ่งที่สามารถแปลงเป็นเงินได้ Tenant - หมายถึงผู้เช่าที่เช่าที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ Landlord - หมายถึงเจ้าของที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ที่ให้เช่าให้ผู้เช่า Real estate - หมายถึงอสังหาริมทรัพย์ที่มีค่าเป็นเงินมาก หรือ เป็นที่ตั้งที่สำคัญ Appraisal - หมายถึงการประเมินมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ Common Area Maintenance Fee (CAM) - หมายถึง ค่าส่วนกลาง Sinking Fund - หมายถึง กองทุนนิติบุคคล Floor-to-c